ETF เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ช่วยให้เราเข้าถึงดัชนีต่างๆ ได้ทั่วโลก รวมถึงมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี สภาพคล่องสูง และต้นทุนต่ำ แต่ก็ใช่ว่า ETF จะดีเหมือนกันทุกตัว เราจึงกำหนดเกณฑ์ในการเลือก ETF ที่ดีที่สุดให้พอร์ตของคุณ ดังนี้
บริษัทที่ออก ETF มีความน่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียงที่ดี
มูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ฿15,000 ล้านบาท)
เราเน้นการเลือกกองทุนขนาดใหญ่เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง แต่ถ้ากองทุนมีขนาดไม่ใหญ่นัก เราจะดูสภาพคล่องสินทรัพย์ที่กองทุนนั้นลงทุนเพิ่มเติม
ความคุ้มค่าในการลงทุน
เราพิจารณาค่าธรรมเนียมว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ เพราะเราเข้าใจว่า ETF ที่ดีไม่จำเป็นต้องมีค่าธรรมเนียมสูง และ ETF ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป
โครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน
เราเลือกเฉพาะ ETF ที่มีโครงสร้างที่เรียบง่าย โดยเราจะไม่ลงทุนใน ETF ที่มีการกู้ยืม (Leverage) หรือมีการสร้างผลตอบแทนที่สวนทางกับดัชนี (Inverse ETF)
เราไม่ลงทุนในกองที่มีความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) ของผู้ออกกองทุน เช่น Exchange Traded Note (ETN)
ETF หรือดัชนีที่อ้างอิงควรมีผลการดำเนินงานอย่างน้อย 3-10 ปี
ประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนตามดัชนี
บางครั้งผลตอบแทนของ ETF อาจไม่เป็นไปตามดัชนีที่อ้างอิง เราจึงต้องดู Tracking Error หรือความแตกต่างระหว่างผลตอบแทนของ ETF กับดัชนีที่อ้างอิงอยู่ โดยเราจะเลือกเฉพาะ ETF ที่มี Tracking Error ต่ำติดต่อกันประมาณ 3-10 ปีเท่านั้น
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่: 0105562135522) ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท ค (การจัดการกองทุนส่วนบุคคลเลขที่ ลค-0136-01) จากกระทรวงการคลังและดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.).
เนื้อหาในหน้าเว็บไซต์นี้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของเราซึ่งระบุไว้ ที่นี่