General Investing
กระจายลงทุนทั่วโลกผ่าน ETF บนความเสี่ยงที่คุณเลือกได้อย่างสบายใจ ด้วยเทคโนโลยีบริหารพอร์ตอัตโนมัติ พาคุณผ่านทุกภาวะเศรษฐกิจ
ค่าธรรมเนียม 0.2%-0.8% ต่อปี ไม่มียิบย่อย
(อัตราขั้นบันไดตามมูลค่าเงินลงทุน)
รายละเอียด
กำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. (ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0136-01)
ทำความรู้จัก General Investing
ทำไมต้อง General Investing
ให้เงินของคุณเติบโตได้ดีที่สุดในทุกภาวะเศรษฐกิจบนความเสี่ยงที่คุณกำหนดได้ ด้วยเทคโนโลยี ERAA™ บริหารพอร์ตให้คุณอย่างสมดุล พร้อมรักษาระดับความเสี่ยงให้คงที่เสมอ
ลงทุนในอะไร
- กระจายลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกผ่าน ETF คุณภาพดีกว่า 13 - 24 ตัวจากบริษัทจัดการกองทุนระดับโลก
- ออกแบบพอร์ตตามระดับความเสี่ยง SRI ที่คุณเลือก เช่น พอร์ตเสี่ยงสูง ลงทุนหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าพอร์ตเสี่ยงต่ำ
- ปรับพอร์ตให้อัตโนมัติตามภาวะเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี ERAA™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของ StashAway
ความเสี่ยง
• เลือกระดับความเสี่ยง StashAway Risk Index (SRI) ได้ถึง 12 ระดับ ระหว่าง SRI 6.5% - SRI 36%
• StashAway Risk Index (SRI) หมายความว่ามีโอกาส 99% ที่จะไม่สูญเสียมูลค่ามากกว่า SRI% ใน 1 ปี
ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SRI
ระยะเวลาที่แนะนำ
3-5 ปี
ค่าธรรมเนียมการจัดการ
0.2% - 0.8% ต่อปี ไม่มียิบย่อย (อัตราขั้นบันไดตามมูลค่าเงินลงทุน)
ดูเพิ่มเติมค่าธรรมเนียมที่คุณประหยัดได้
ผลการดำเนินงานจริง
พอร์ตการลงทุน
General Investing
ระดับความเสี่ยง StashAway Risk Index (SRI)
18%
เสี่ยงต่ำ
เสี่ยงสูง
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (ตั้งแต่เริ่มดำเนินการ) |
|---|
กำลังโหลด
ตัวอย่างการลงทุนด้วยเงิน $100,000 เมื่อระยะเวลาผ่านไป
ผลการดำเนินงานคาดการณ์เพื่อแสดงตัวอย่างการคำนวณเท่านั้น การเปรียบเทียบผลการดําเนินงานดังกล่าวมาจากผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียม โดยอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ผลการดําเนินงานมาจากพอร์ตที่ใช้กลยุทธ์การลงทุน ERAA™ ตั้งแต่เริ่มให้บริการในประเทศสิงคโปร์ โดยพอร์ตที่มี SRI 6.5%, 8%, 10%, 12%, 14%, 16%, 18%, และ 20% เริ่มในวันที่ 19 กรกฎาคม 2017 ส่วนพอร์ตที่มี SRI 26%, 30%, และ 36% เริ่มในวันที่ 16 สิงหาคม 2018 และพอร์ตที่มี SRI 22% เริ่มในวันที่ 15 สิงหาคม 2019
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน; ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
เป้าหมายของกลยุทธ์การลงทุนของเราไม่ใช่การเอาชนะตลาดให้ได้ทุกวัน อาจทำให้ในบางเวลาพอร์ตของคุณได้รับผลกระทบจากความผันผวนในระยะสั้นตามระดับความเสี่ยงที่คุณเลือก แต่ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพและการปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจจะสามารถช่วยลดโอกาสในการขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงและมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่าซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
เทคโนโลยี ERAA™ บริหารพอร์ตให้คุณอย่างไร?
ERAA™ ได้นำทฤษฎี MPT ที่ได้รับรางวัล Nobel มาเพิ่มศักยภาพในการบริหารพอร์ตตามภาวะเศรษฐกิจให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ERAA™ ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมงานที่มีประสบการณ์บริหารการลงทุนให้สถาบันการเงินระดับโลกกว่า 50 ปี และผ่านการทำ Stress Test กว่า 30,000 ชม. โดยมี 4 หลักการ ดังนี้
ปรับพอร์ตตามภาวะเศรษฐกิจ
จัดการความเสี่ยง (Risk Control)
ประเมินราคาสินทรัพย์ (Valuation Gap)
จัดการความเสี่ยงเฉพาะของสินทรัพย์
เทคโนโลยีที่ให้คุณลงทุนได้ง่าย แต่มีประสิทธิภาพที่มากกว่า
เริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้
เพื่ออนาคตที่ออกแบบได้
ลงทุนทั่วโลกแบบสบายใจ ให้ TECH บริหารให้ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
คำถามที่พบบ่อย
StashAway มีกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างไร
กลยุทธ์การลงทุนของเราออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงในทุกภาวะเศรษฐกิจ โดยเราจะวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อให้ทราบว่าสินทรัพย์ประเภทไหนสร้างผลตอบแทนได้ดีในภาวะเศรษฐกิจรูปแบบต่างๆ รวมถึงคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจก่อนที่จะเกิดผลกระทบในตลาด
หลังจากนั้น เราจึงออกแบบพอร์ตที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่คุณกำหนด การบริหารพอร์ตในรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้พอร์ตบรรลุเป้าหมายการลงทุนในระยะยาวได้ แต่ยังลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้นอีกด้วย
คุณสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของเราได้ในบทความนี้: ERAA™
Rebalancing และ Re-optimisation แตกต่างกันอย่างไร
- การทำ Rebalancing คือ การรักษาสมดุลของพอร์ต หรือการรักษาสัดส่วนสินทรัพย์ตาม Asset Allocation ที่คุณกำหนดไว้ โดยระบบจะตรวจสอบในทุกๆ วัน หากสัดส่วนของสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงเกินเกณฑ์ ระบบจะทำการซื้อ-ขายสินทรัพย์เพื่อคงสัดส่วนสินทรัพย์ตามที่กำหนดไว้
- การทำ Re-optimisation คือ การปรับ Asset Allocation ของพอร์ต โดยการเพิ่ม-ลด หรือเปลี่ยนแปลงสัดส่วน ETF ในพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจแต่ละช่วง ซึ่งในพอร์ตแบบ Flexible คุณสามารถปรับสัดส่วนเองได้ทั้งหมดตามที่คุณต้องการ
สำหรับ Flexible Portfolio เราจะทำการ Rebalancing ให้คุณอัตโนมัติเพื่อรักษา Asset Allocation (สัดส่วนสินทรัพย์) ตามที่คุณกำหนดไว้ แต่เราจะไม่ทำการ Re-optimisation แม้ภาวะเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาสัดส่วนการลงทุนที่คุณได้กำหนดไว้
หมายเหตุ: การทำ Re- optimisation เป็นหนึ่งในกลไกที่เราใช้ดูแลพอร์ต General Investing, Goal-based Investing และ Thematic Portfolio
StashAway Risk Index คืออะไร
StashAway Risk Index (SRI) เป็นการจัดระดับความเสี่ยงที่เราใช้เพื่อกำหนด Asset Allocation ของพอร์ตอย่างเหมาะสม ซึ่ง SRI จะอิงตามรูปแบบการวัดความเสี่ยงที่ใช้กันโดยทั่วไปซึ่งมีชื่อว่าค่า Value-at-Risk (VaR)
เราใช้ค่า VaR ที่ 99%-VaR ซึ่งหมายความว่าพอร์ตของคุณมีโอกาส 1% ที่จะขาดทุนมากกว่าระดับค่า SRI (หรือ 99%-VaR) ที่เลือกไว้ใน 1 ปี
ตัวอย่างเช่น พอร์ตใน StashAway มีเงินอยู่ ฿100,000 และมี SRI อยู่ที่ 10% หมายความว่าพอร์ตนี้มีโอกาส 1% ที่จะขาดทุนเกิน 10% หรือ ฿10,000 ในแต่ละปี หรือพอร์ตมีโอกาส 99% ที่มูลค่าจะไม่ลดต่ำกว่า ฿90,000
ฝากเงินลงทุนเข้าบัญชี StashAway ได้อย่างไร
คุณสามารถดูวิธีฝากเงินลงทุนได้ในแอปพลิเคชันของเรา โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เลือกเมนู "ฝาก" ในหน้าแรก
- เลือกแผนฝากเงินลงทุน "แบบรายครั้ง" หรือแผนฝากเงินลงทุน "แบบรายเดือน"
- กรอกจำนวนเงินที่ต้องการแล้วเลือก "ดำเนินการต่อ"
- ดูขั้นตอนฝากเงินลงทุนและบันทึก QR Code เพื่อใช้ในการโอนเงินจากแอปพลิเคชันของธนาคาร
StashAway ดำเนินงานร่วมกับ Citibank ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อให้ได้มาซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับนักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับอัตราตลาด
StashAway เก็บเงินของลูกค้าไว้ที่ไหน
เราจะเก็บเงินสดของคุณไว้ในบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินที่แยกจากทรัพย์สินของบริษัทอย่างสิ้นเชิง โดยเราได้แต่งตั้งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินกองทุนส่วนบุคคลตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ส่วนหลักทรัพย์ที่เราลงทุนให้คุณในต่างประเทศจะเก็บอยู่ในบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินที่ธนาคาร Citibank ในสิงคโปร์ และเงินสดในต่างประเทศจะถูกจัดเก็บในบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินที่ธนาคาร HSBC ในสิงคโปร์ โดยผ่าน Saxo Capital Markets ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของเรา