ลงทุนทั่วโลกสบายใจ
ปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ
✔ ลงทุน ETF ทั่วโลก ง่ายแค่ปลายนิ้ว
✔ ใช้ TECH บริหารให้ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
✔ FEE น้อย โปร่งใส กำไรเต็ม
ค่าธรรมเนียม 0.2%-0.8% ต่อปี ไม่มียิบย่อย
(อัตราขั้นบันไดตามมูลค่าเงินลงทุน)
รายละเอียด
กำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. (ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0136-01)
ทำไมต้อง StashAway?
แอปลงทุนทั่วโลกที่จัดการทุกความซับซ้อนแทนคุณ ให้คุณมี 'เวลา' ใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ
ง่าย
ลงทุนทั่วโลกได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก ให้เทคโนโลยีระดับโลกบริหารพอร์ตให้โดยที่คุณไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ
ชาญฉลาด
ใช้เทคโนโลยีการลงทุนอัจฉริยะ ERAA™ ที่ยกระดับทฤษฎีรางวัลโนเบลไปอีกขั้นมาบริหารพอร์ตตามภาวะเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนและรักษาระดับความเสี่ยงให้คุณอยู่เสมอ
ประหยัดกว่า
ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 0.2% - 0.8% ต่อปี (อัตราขั้นบันไดตามมูลค่าเงินลงทุน) ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
ไม่ผูกมัด
ไม่มี Lock-up ฝาก-ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน
ปลอดภัย
ดูแลสินทรัพย์ของคุณอย่างปลอดภัยโดยผู้รับฝากทรัพย์สินชั้นนำอย่างธนาคารกสิกรไทยและ Citibank ซึ่งทรัพย์สินของคุณจะแยกจากบัญชีดำเนินธุรกิจของ StashAway อย่างสิ้นเชิง
เลือกพอร์ตการลงทุนที่ใช่สำหรับคุณ
Flexible Portfolio
- พอร์ตสำหรับนักลงทุนที่ชอบจัดพอร์ตเอง (DIY)
ออกแบบพอร์ตด้วยตัวเอง! ไม่ว่าจะ Customise จากพอร์ตต้นแบบ หรือ DIY พอร์ตใหม่ตั้งแต่ต้นจากสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 60 ประเภท มาพร้อมกับระบบคำนวณผลตอบแทนย้อนหลังและความเสี่ยง Rebalance พอร์ตให้อัตโนมัติ
ให้คุณสร้างพอร์ตที่ใช่ พร้อมตัวช่วย Rebalancing
ขอแนะนำ! ลงทุนให้เงินงอกเงยกับ USD Cash Plus
ด้วย Yield 5.33%* ต่อปี
ทำไมควรลงทุน USD Cash Plus ในตอนนี้?
ผลการดำเนินงานจริง
พอร์ตการลงทุน
General Investing
ระดับความเสี่ยง StashAway Risk Index (SRI)
18%
เสี่ยงต่ำ
เสี่ยงสูง
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (ตั้งแต่เริ่มดำเนินการ) |
|---|
กำลังโหลด
ตัวอย่างการลงทุนด้วยเงิน $100,000 เมื่อระยะเวลาผ่านไป
ผลการดำเนินงานคาดการณ์เพื่อแสดงตัวอย่างการคำนวณเท่านั้น การเปรียบเทียบผลการดําเนินงานดังกล่าวมาจากผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียม โดยอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ผลการดําเนินงานมาจากพอร์ตที่ใช้กลยุทธ์การลงทุน ERAA™ ตั้งแต่เริ่มให้บริการในประเทศสิงคโปร์ โดยพอร์ตที่มี SRI 6.5%, 8%, 10%, 12%, 14%, 16%, 18%, และ 20% เริ่มในวันที่ 19 กรกฎาคม 2017 ส่วนพอร์ตที่มี SRI 26%, 30%, และ 36% เริ่มในวันที่ 16 สิงหาคม 2018 และพอร์ตที่มี SRI 22% เริ่มในวันที่ 15 สิงหาคม 2019
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน; ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
เป้าหมายของกลยุทธ์การลงทุนของเราไม่ใช่การเอาชนะตลาดให้ได้ทุกวัน อาจทำให้ในบางเวลาพอร์ตของคุณได้รับผลกระทบจากความผันผวนในระยะสั้นตามระดับความเสี่ยงที่คุณเลือก แต่ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพและการปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจจะสามารถช่วยลดโอกาสในการขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงและมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่าซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ความปลอดภัยของเงินลงทุนของคุณ
มั่นใจ ด้วยการกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต.
เราได้รับใบอนุญาตจัดการกองทุนส่วนบุคคล (เลขที่ ลค-0136-01) และอยู่ภายใต้การกํากับดูแลของสํานักงาน ก.ล.ต.
คุณจึงมั่นใจได้ว่าเราผ่านการตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนด ทั้งในด้านเงินทุน การดำเนินกิจการ การตรวจสอบบัญชี และการรายงาน
นอกจากนี้ เรายังได้รับใบอนุญาตและดำเนินการภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลใน 5 ประเทศที่เราเปิดให้บริการ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ปลอดภัย ด้วยผู้รับฝากทรัพย์สินชั้นนำ
ธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินกองทุนส่วนบุคคลของคุณ
ส่วนหลักทรัพย์ที่เราลงทุนให้คุณในต่างประเทศจะเก็บอยู่ในบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินที่ Citibank และเงินสดจะเก็บในบัญชีทรัสต์ที่ HSBC
เงินลงทุนของคุณจะถูกแยกจากบัญชีธุรกิจของบริษัทอย่างสิ้นเชิง เงินลงทุนของคุณจึงปลอดภัยโดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานะการเงินของ StashAway
อุ่นใจ กับมาตรการตรวจสอบการถอนเงิน
เรากำหนดมาตรการตรวจสอบความถูกต้องของทุกธุรกรรมการถอนเงินเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้เงินของคุณ
ระบบจะถอนเงินลงทุนไปยังบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของคุณเท่านั้น พร้อมยืนยันตัวตนผู้ถอนด้วยรหัส OTP ที่จัดส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่คุณลงทะเบียนไว้และมีการแจ้งการเตือนก่อน-หลังธุรกรรมถอนเงินทำเสร็จ
StashAway กับความไว้วางใจที่ได้รับ
40,000+ ล้านบาท
2,000+
เราได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับโลก
เริ่มลงทุนง่ายๆ กับ StashAway
ลงทุนตั้งแต่วันนี้
เพื่อชีวิตในแบบที่คุณต้องการ
เปิดบัญชีด้วยเวลาเพียง 15 นาที
คำถามที่พบบ่อย
StashAway อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ใช่ไหม
ใช่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท ค (การจัดการกองทุนส่วนบุคคล) เลขที่ ลค-0136-01 จากกระทรวงการคลังและดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
StashAway มีกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างไร
กลยุทธ์การลงทุนของเราออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงในทุกภาวะเศรษฐกิจ โดยเราจะวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อให้ทราบว่าสินทรัพย์ประเภทไหนสร้างผลตอบแทนได้ดีในภาวะเศรษฐกิจรูปแบบต่างๆ รวมถึงคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจก่อนที่จะเกิดผลกระทบในตลาด
หลังจากนั้น เราจึงออกแบบพอร์ตที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่คุณกำหนด การบริหารพอร์ตในรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้พอร์ตบรรลุเป้าหมายการลงทุนในระยะยาวได้ แต่ยังลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้นอีกด้วย
คุณสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของเราได้ในบทความนี้: ERAA™
StashAway แตกต่างจาก Robo-advisor ที่อื่นอย่างไร
นอกจากเราจะเปลี่ยนการลงทุนในต่างประเทศให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนแล้ว เรายังมอบกลยุทธ์การลงทุนที่มีมาตรฐานสากลและการลงทุนใน ETF ระดับโลกโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูง
กลยุทธ์การลงทุนของเราจะปรับ Asset Allocation ของพอร์ตให้เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจที่หลากหลายได้เพื่อลดความผันผวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจ
คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนของเราได้ ที่นี่
ทำไม StashAway ถึงเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการได้ต่ำกว่าธนาคารและที่ปรึกษาทางการเงินรายอื่นๆ
เรารู้ว่าค่าธรรมเนียมที่สูงทำให้ผลตอบแทนของการลงทุนลดลงได้อย่างมาก เราจึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการของเรา เพื่อให้เราสามารถคิดค่าธรรมเนียมได้ต่ำและเพิ่มผลตอบแทนของคุณให้สูงขึ้น เช่น ระบบ Rebalancing ที่ใช้ในการตรวจสอบและอาจปรับน้ำหนักการลงทุนให้ตรงตามเป้าหมายทุกวัน และระบบ Re-optimisation ที่วิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อออกแบบ Asset Allocation ให้เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจ
คลิก ที่นี่ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าทำไม StashAway จึงเก็บค่าธรรมเนียมได้ต่ำกว่า
เอกสารที่ใช้ในการเปิดบัญชีมีอะไรบ้าง
เอกสารที่ใช้ในการเปิดบัญชีมีอะไรบ้าง
สำหรับบุคคลสัญชาติไทย:
• ยืนยันตัวตนด้วยบริการ NDID กับธนาคารผู้ให้บริการผ่าน Mobile Banking ดูเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หรือ
• ยืนยันตัวตนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันด้วยหนังสือเดินทางและบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ
สำหรับชาวต่างชาติ:
• หนังสือเดินทางที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
• หลักฐานยืนยันที่อยู่ปัจจุบัน (เช่น บิลค่าไฟ บิลค่าโทรศัพท์ รายการเดินบัญชีธนาคารหรือบิลค่าบัตรเครดิต) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 3 เดือน และแสดงชื่อ-นามสกุลรวมถึงที่อยู่ของคุณอย่างชัดเจน