คู่มือการลงทุนดัชนีฮั่งเส็ง คว้าโอกาสในเศรษฐกิจจีนผ่านตลาดหุ้นฮ่องกง

02 April 2025

แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

หลายคนเริ่มมองหาการลงทุนที่ไม่จำกัดแค่ในประเทศหรือตลาดสหรัฐ เพราะโอกาสใหม่ๆ มักเกิดขึ้นในจุดที่คนยังไม่ค่อยสนใจมากนัก หนึ่งในนั้นคือ ตลาดหุ้นฮ่องกง ที่มีดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) เป็นตัวสะท้อนเศรษฐกิจจีนขนาดใหญ่ผ่านบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งเปิดกว้างให้นักลงทุนต่างชาติสามารถมีส่วนร่วมได้ง่ายกว่าตลาดจีนแผ่นดินใหญ่มาก

ดัชนีฮั่งเส็ง คืออะไร? ต่างจาก CSI อย่างไร?

ดัชนีฮั่งเส็ง คือดัชนีที่ใช้วัดผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยคัดเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องดีและมีอิทธิพลต่อภาพรวมของตลาด เช่น กลุ่มเทคโนโลยี ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน โดยปัจจุบันประกอบด้วยหุ้นจาก 82 บริษัทชั้นนำ

เมื่อเปรียบเทียบกับ CSI 300 ซึ่งเน้นหุ้นจีนในตลาด Shanghai และ Shenzhen (A-Share) จะพบว่า ดัชนีฮั่งเส็งค่อนข้างเปิดกว้างมากกว่า เพราะไม่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนต่างชาติ และซื้อขายเป็นสกุลดอลลาร์ฮ่องกง ทำให้เหมาะสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้าถึงเศรษฐกิจจีนโดยไม่ติดข้อจำกัดด้านสกุลเงินหรือกฎระเบียบที่ซับซ้อนกว่า

องค์ประกอบดัชนีฮั่งเส็ง

ดัชนีนี้รวบรวมหุ้นจากบริษัทชั้นนำที่มีบทบาทในเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก เช่น

  • Tencent ผู้ให้บริการ WeChat และธุรกิจเกมรายใหญ่
  • Alibaba ผู้นำด้าน E-commerce
  • HSBC ธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 7 ของโลก (AUM)
  • BYD บริษัทผลิตรถยนต์ EV อันดับต้นๆ ของโลก

นอกจากนั้น ยังมีบริษัทในกลุ่มการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และ Healthcare อีกมากมาย ซึ่งช่วยให้ดัชนีฮั่งเส็งสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ได้ค่อนข้างชัดเจน

โอกาสสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

นักลงทุนต่างชาติสามารถใช้ดัชนีฮั่งเส็งเป็นเครื่องมือเข้าถึงเศรษฐกิจจีนได้โดยไม่ต้องไปยุ่งยากกับกฎระเบียบที่เข้มงวดของจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น Capital Control หรือข้อจำกัดในการซื้อขายของ A-Share นอกจากนี้ยังสามารถเลือกวิธีลงทุนได้หลายแบบ ทั้งผ่าน ETF กองทุนรวม และอนุพันธ์

ทำไมควรลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง?

ก่อนจะลงมือกดซื้อ ETF หรือเปิดพอร์ตลงทุน ลองมาทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมดัชนีฮั่งเส็งถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว

1. ศักยภาพของตลาดหุ้นฮ่องกง

ตลาดหุ้นฮ่องกงถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่เปิดเสรีที่สุดในเอเชีย เชื่อมโยงกับทั้งฝั่งตะวันตกและจีนแผ่นดินใหญ่ มีระบบการกำกับดูแลที่เข้มงวด และได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก ทำให้การลงทุนในหุ้นฮ่องกงมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แม้ว่าในบางช่วงจะเจอกับแรงกดดันทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ แต่ฮ่องกงก็ยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่แข็งแกร่ง และสามารถผ่านวิกฤติมาได้หลายต่อหลายครั้ง จนกลายเป็นจุดศูนย์กลางของนักลงทุนที่ต้องการมีส่วนร่วมกับเศรษฐกิจจีน

2. โอกาสจากหุ้นจีนและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ

บริษัทอย่าง Tencent, Alibaba, BYD และ HSBC ไม่ใช่แค่หุ้นใหญ่ในดัชนีเท่านั้น แต่ยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในระดับโลก การลงทุนในดัชนีฮั่งเส็งจึงเป็นเหมือนการตีตั๋วขึ้นรถไปกับผู้นำแห่งอนาคต นอกจากนี้ หุ้นเทคจีนมักถูกประเมินมูลค่าต่ำกว่าหุ้นเทคสหรัฐ ทั้งที่มีฐานผู้ใช้งานและรายได้มหาศาล ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาว

3. เป็นการกระจายการลงทุน

การลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง ช่วยลดความเสี่ยงจากการถือสินทรัพย์ในประเทศเดียว เช่น ตลาดหุ้นไทยหรือสหรัฐ เพราะเศรษฐกิจจีนอาจมีปัจจัยขับเคลื่อนที่แตกต่างจากตลาดขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนแบบกระจุกตัว 

วิธีลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง

เมื่อเข้าใจโอกาสแล้ว เรามาดูวิธีลงทุนในดัชนีฮั่งเส็งกันดีกว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน เป็นนักลงทุนสายเน้นคุณค่า หรือเป็นนักลงทุนสายเทคนิค ก็สามารถเริ่มต้นได้ตามความเหมาะสม

1. ลงทุนผ่าน ETF ที่อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง

การลงทุนผ่าน ETF เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดต้นทุนที่สุด เพราะคุณสามารถซื้อขายได้แบบ Real-time เหมือนหุ้น และมีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย เช่น

  • Tracker Fund of Hong Kong (2800) เป็น ETF ที่อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็งโดยตรง และได้รับความนิยมสูง
  • iShares Hang Seng Tech ETF (3115, 83115, 9115) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้นหุ้นเทคโนโลยีเป็นพิเศษ

ข้อดีของ ETF คือ มีการกระจายการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง ทำให้มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ เพราะไม่ต้องเลือกหลักทรัพย์รายตัว และยังมีสภาพคล่องที่สูง เพราะซื้อขายในตลาดได้เหมือนหุ้นทั่วไป

2. ลงทุนผ่านกองทุนรวม

การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่จัดตั้งโดยบลจ. ในไทย เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมืออาชีพช่วยดูแลพอร์ต เพื่อลดภาระในการติดตามตลาดด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องระวังเรื่องค่าธรรมเนียมที่มักสูงกว่า ETF

3. ลงทุนผ่าน Futures & Options

สำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูง สามารถใช้เครื่องมืออนุพันธ์อย่าง Futures หรือ Options ที่อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง ในการเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงได้ แต่ข้อควรระวังคือ การลงทุนด้วยวิธีนี้มีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงต้องมีความเข้าใจในระบบ Margin การตั้ง Stop loss รวมถึงความเสี่ยงด้าน Leverage อย่างลึกซึ้งด้วย

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง

ก่อนเริ่มลงทุน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่อาจมีผลต่อการลงทุน เพื่อประเมินความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ก่อน

1. ภาพรวมเศรษฐกิจจีนและฮ่องกง

เศรษฐกิจจีนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูง แม้จะชะลอตัวลงบ้างจากสงครามการค้ากับสหรัฐ หรือปัญหาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังมีแรงขับเคลื่อนจากเทคโนโลยี การส่งออก และการบริโภคภายใน ส่วนฮ่องกงเองก็กำลังฟื้นตัวและเริ่มดึงดูดการลงทุนกลับมา

2. นโยบายของรัฐบาลจีนที่อาจมีผลต่อตลาด

รัฐบาลจีนมีบทบาทสูงในการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีและการเงิน ซึ่งบางครั้งส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างชัดเจน ตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นเช่น การสั่งระงับ IPO ของ Ant Group ซึ่งส่งผลให้หุ้น Alibaba ร่วงลงทันที และในปี 2025 รัฐบาลจีนมีนโยบายให้การสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์จึงทำให้หุ้นในกลุ่มนี้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เป็นต้น ดังนั้น หากลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง นักลงทุนจะต้องติดตามนโยบายของภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนโยบายควบคุมบริษัท Big Tech และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ

3. ความผันผวนของค่าเงิน

ดัชนีฮั่งเส็งซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ซึ่งแม้จะผูกกับ USD อย่างใกล้ชิด แต่ค่าเงิน HKD ยังมีความผันผวนเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท โดยเฉพาะช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก หรือในช่วงที่ค่าเงินมีความผันผวนมากกว่าปกติ

4. สงครามการค้าระหว่างประเทศ

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ มีผลโดยตรงต่อหุ้นในดัชนีฮั่งเส็ง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่อาจถูกควบคุมการส่งออกชิ้นส่วนหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ 

5. ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดในไต้หวัน ปัญหาในทะเลจีนใต้ หรือการประท้วงในฮ่องกง ล้วนมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดนี้ทั้งสิ้น

บทสรุปพร้อมคำแนะนำ

การลงทุนใน ดัชนีฮั่งเส็ง เหมาะกับใคร?

  • มือใหม่ ควรเริ่มจาก ETF หรือกองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญช่วยบริหาร
  • นักลงทุนมีประสบการณ์ สามารถลงทุนผ่าน ETF แบบ Thematic เช่น กลุ่มเทคโนโลยี หรือลงทุนผ่านกองทุนรวม ร่วมกับการแบ่งพอร์ตลงทุนในตลาด Futures ก็ได้เช่นกัน 

กลยุทธ์การลงทุนที่ควรพิจารณา

  • ลงทุนแบบ DCA เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาและค่าเงิน
  • กระจายความเสี่ยงระหว่างตลาดไทย สหรัฐ จีน และตลาดอื่นๆ
  • เลือก ETF หรือกองทุนรวมที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ

ETF คือทางเลือกที่ง่ายและมีค่าธรรมเนียมต่ำ

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดต่างประเทศแบบไม่ซับซ้อน
  • มีสภาพคล่องสูง และสามารถเริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณไม่มาก

ควรติดตามข่าวสารอะไรบ้าง?

  • ดัชนีเศรษฐกิจจีน อย่างการประกาศ GDP หรือ PMI
  • นโยบายรัฐบาลจีน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี
  • ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ
  • ข่าวการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฮ่องกง

หากคุณกำลังมองหา ‘โอกาสใหม่’ ที่มีศักยภาพในระยะยาว และต้องการกระจายความเสี่ยงจากตลาดสหรัฐ การลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง อาจเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ และ StashAway หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นลงทุนในเศรษฐกิจจีนได้อย่างมั่นใจ

Disclaimer:

การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน; ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต; การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำเสนอ คำแนะนำ คำเชื้อเชิญ หรือการชักชวนให้ท่านซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือเข้าทำธุรกรรมใดๆ

ข้อมูลนี้ไม่ได้จัดเตรียมขึ้นโดยคำนึงถึงสถานการณ์ส่วนบุคคลของท่าน (เช่น วัตถุประสงค์การลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความความต้องการโดยเฉพาะ) ท่านควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านการเงิน บัญชี ภาษี กฎหมาย และด้านอื่นๆ ของท่านเอง


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ