ประเด็นวิกฤต Silicon Valley Bank (SVB)

Michele Ferrario
Co-Founder และ Group Chief Executive Officer พร้อมประสบการณ์ 16 ปีในอุตสาหกรรมการเงินและเทคโนโลยี

ทั้งสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของคุณและสินทรัพย์ในการดำเนินธุรกิจของ StashAway ไม่มีการจัดเก็บไว้กับ SVB แต่อย่างใด โดย StashAway ได้แต่งตั้งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินกองทุนส่วนบุคคล ส่วนหลักทรัพย์ที่เราลงทุนและเงินสดในต่างประเทศจะเก็บอยู่ในบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินที่ธนาคาร Citibank และ HSBC ในสิงคโปร์ตามลำดับ โดยผ่าน Saxo Capital Markets ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของเรา

เราทราบดีว่าคุณอาจรู้สึกกังวลกับข่าวที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้เกี่ยวกับสถานการณ์ของ Silicon Valley Bank (SVB) และเราขอยืนยันว่าทั้งสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของคุณและสินทรัพย์ในการดำเนินธุรกิจของ StashAway ไม่มีการจัดเก็บไว้กับ SVB แต่อย่างใด

StashAway ได้แต่งตั้งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินกองทุนส่วนบุคคลของคุณตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยหลักทรัพย์ที่เราลงทุนและเงินสดในต่างประเทศจะเก็บอยู่ในบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินที่ธนาคาร Citibank และ HSBC ในสิงคโปร์ตามลำดับ โดยผ่าน Saxo Capital Markets ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของเรา นอกจากนี้สินทรัพย์ในการดำเนินธุรกิจของ StashAway จะเก็บอยู่ที่ธนาคาร Citibank และแยกจากสินทรัพย์ของนักลงทุนโดยสิ้นเชิง ซึ่งทั้ง Citibank และ HSBC ถือเป็นส่วนหนึ่งของ G-SIBs (สถาบันการเงินที่มีความสำคัญต่อระบบการเงินโลก)

วิกฤตที่เกิดขึ้นของ SVB เกิดจากอะไร?

วิกฤตของ SVB ในครั้งนี้เกิดจาก 2 ปัจจัย คือ จากฐานเงินฝากของธนาคารที่มีความกระจุกตัว และ จากความไม่สมดุลของอายุระหว่างทรัพย์สินและหนี้สิน (Maturity Mismatch) กล่าวคือ ความไม่สมดุลระหว่างเงินฝากของธนาคาร (ที่ลูกค้าสามารถถอนได้ทันที) กับพอร์ตของ SVB ที่ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (หากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาของตราสารหนี้จะปรับตัวลดลง)

โดยวิกฤตนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เรียกว่า “Bank Run” คือ ผู้ฝากเงินได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาของธนาคารและต่างเริ่มถอนเงินที่ฝากไว้อย่างกะทันหัน ซึ่งส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องขายตราสารหนี้ที่มีอยู่ และบันทึกผลขาดทุนนั้นในงบของบริษัท

โดยในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินของสหรัฐได้ประกาศคุ้มครองสินทรัพย์ของผู้ฝากเงินเพื่อลดผลกระทบต่อเนื่องไปยังธนาคารขนาดเล็กอื่นๆ ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์นี้จาก CNBC ได้ที่นี่

พอร์ตการลงทุน StashAway ของคุณมีการลงทุนใน SVB ไหม?

พอร์ตการลงทุนของ StashAway ไม่มีการลงทุนโดยตรงใน SVB อย่างไรก็ตาม SVB ยังเป็นส่วนหนึ่งในดัชนีหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐ เช่น S&P 500 จึงทำให้พอร์ตการลงทุนของเรามีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของ SVB ในระดับที่ไม่มีนัยสำคัญต่อภาพรวมของพอร์ต ตัวอย่างเช่น พอร์ต General Investing ที่ระดับความเสี่ยง StashAway Risk Index สูงสุด หรือ SRI 36% จะมี Exposure ใน SVB ที่สัดส่วนรวมสูงสุด 0.0062% ผ่าน IVV, ISAC, และ AGG ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ทั่วโลก

นอกจากนี้ ในการทำ Reoptimisation ครั้งล่าสุดในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุน ERAA™ ได้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจการเงินในสหรัฐ​ เพราะจากข้อมูลในอดีต กลุ่มธุรกิจนี้มักมีผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเมื่ออยู่ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และอ่อนไหวต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

StashAway จะยังคงมุ่งมั่นสร้างการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดเสมอ รวมทั้งพร้อมตอบทุกข้อสงสัยของนักลงทุนทุกเมื่อ ผมและทีมงาน StashAway ขอขอบคุณที่มอบความไว้วางใจให้เราดูแลการลงทุนของคุณ


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ