Weekly Buzz: ตลาดตราสารหนี้เริ่มฟื้นตัวแล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐล่ะ?

11 February 2023

🕵️ ตลาดตราสารหนี้เริ่มฟื้นตัวแล้ว

ปี 2022 เป็นหนึ่งในปีที่ตลาดตราสารหนี้มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้น จึงเข้าใจได้หากความเชื่อมั่นในสินทรัพย์นี้ของหลายคนจะลดลง แต่ปัจจุบันเราได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจใหม่แล้วซึ่งจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนด้วย

โดยปกติ ราคาตราสารหนี้มักจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง หรือคาดว่าจะปรับลดลง ตามภาพด้านล่างนี้:

Weekly Buzz 10Feb23 1

ดังนั้น ตราสารหนี้จึงมีความน่าสนใจมากขึ้นจากการที่ธนาคารกลางหลักต่างเริ่มชะลอหรือพักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ แล้วเมื่อตลาดตราสารหนี้มีทิศทางดีขึ้น การมีสินทรัพย์นี้ในพอร์ตจะมีข้อดีอย่างไร

  • สร้างการกระจายการลงทุนที่ดี และช่วยสร้างสมดุลในพอร์ต โดยตราสารหนี้จะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของหุ้น และช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตได้
  • ปกป้องพอร์ต เพราะตราสารหนี้มักจะมีระดับความเสี่ยงที่ต่ำกว่า โดยทั่วไปแล้วตราสารหนี้จะช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุนของคุณให้มูลค่าไม่ลดลงมากนักเมื่อเจอความผันผวน
  • สร้างรายได้ ด้วยการจ่ายดอกเบี้ยให้นักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งคุณสามารถนำมาใช้จ่ายได้ตามต้องการ

เมื่ออัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงทำให้สินทรัพย์กลุ่มนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะการสร้างรายได้

ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอยู่สูงกว่า 4.5% ต่อปี ถือเป็นอัตราที่ดึงดูดสำหรับสินทรัพย์ที่แทบจะปราศจากความเสี่ยง (Risk-free asset)

ส่วนตราสารหนี้ระยะยาวเริ่มเห็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวก ซึ่งหมายถึงนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อได้ หากคุณต้องการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกแบบง่ายๆ สามารถลงทุนใน Flexible Portfolio โดยเลือกพอร์ตต้นแบบที่เน้น Passive Income (ลงทุนตราสารหนี้ที่ 99%) ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างสม่ำเสมอ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพอร์ตต้นแบบที่เน้น Passive Income ของเราได้ที่นี่

Weekly Buzz 10Feb23 2

🤯 ตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวแรงกว่าที่ตลาดคาด

เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐเติบโตเกินคาด โดยมีการจ้างงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 517,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า (ที่ราว 189,000 ตำแหน่ง) และยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์สูงสุดที่ 320,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 3.4% ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับจากเดือน พ.ค. ปี 1969

ตัวเลขการจ้างงานนี้บอกอะไรกับเรา?

ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในระดับสูงอยู่นานกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งมาจาก ปัจจัยตามฤดูกาลและการทบทวนข้อมูล

เราต่างรู้ว่าเงินเฟ้อสูงคือข่าวร้ายสำหรับ Fed 

การที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือ Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เราต้องเห็นอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงมากกว่านี้ก่อน ซึ่งสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นได้ถ้าตลาดแรงงานชะลอความร้อนแรงลงเช่นกัน

แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป?

สัปดาห์ก่อน Jerome Powell ประธาน Fed ยังย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจไต่ขึ้นสูงกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ถ้าตลาดแรงงานไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะชะลอตัวแล้ว ถึงแม้ Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและอาจแตะเบรกเร็วๆ นี้ แต่เราน่าจะต้องเห็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอาจลากยาวจนถึงสิ้นปีและไปถึงปี 2024

🎓 ศัพท์โลกการลงทุน: Coupon rate vs Yield to Maturity

นักลงทุนที่ต้องการจะลงทุนในตราสารหนี้คงอยากรู้ว่าจะประเมินอัตราผลตอบแทนจากการถือตราสารหนี้ได้อย่างไร โดยเราสามารถประเมินได้จาก 2 รูปแบบหลัก คือ Coupon rate และ Yield to Maturity

แล้วมันต่างกันอย่างไร?

Coupon rate

คือ อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว ซึ่งหมายถึง อัตราดอกเบี้ยต่อปีที่นักลงทุนจะได้รับในการถือครองตราสารหนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดอายุของตราสารหนี้ เช่น หากหน้าตั๋วตราสารหนี้ระบุมูลค่าที่ 100,000 บาท และให้ผลตอบแทนที่ 2,000 บาท​ต่อปี เท่ากับมี Coupon Rate ที่ 2%

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตราสารหนี้ด้วยราคาหน้าตั๋วและจะถือครองไว้จนครบกำหนดอายุ Coupon rate จะเกี่ยวข้องมากกว่า

Yield to maturity

คือ อัตราผลตอบแทนเมื่อถือจนครบกำหนดอายุ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับมูลค่าปัจจุบัน และจำนวนดอกเบี้ยที่จะได้รับตลอดระยะเวลาคงเหลือของตราสารหนี้ โดย YTM เป็นอัตราผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับเมื่อถือครองตราสารหนี้จนครบกำหนด

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตราสารหนี้ในตลาดรองหรือมีแผนที่จะขายก่อนครบกำหนดอายุ YTM จะทำให้เห็นภาพของอัตราผลตอบแทนคาดหวังได้แม่นยำและครบถ้วนกว่า


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ