Weekly Buzz: เงินเฟ้อในสหรัฐยังคงร้อนแรงรับวาเลนไทน์

18 February 2023

แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

202302 ENTH Weekly buzz 18 Feb

💕 คุณเคยมี ‘Money Talk’ กับคนรักบ้างไหม?

การพูดคุยกันเรื่องเงินดูเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคู่รักหลายคู่ แต่ที่จริงแล้วมันจะช่วยให้คุณเข้าใจกันมากขึ้น แถมยังเป็นโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ว่าอีกฝ่ายให้คุณค่ากับเรื่องอะไรบ้าง และพากันไปถึงเป้าหมายการเงินร่วมกันได้ ยิ่งคุณเริ่มเปิดใจเร็วมากเท่าไหร่ คุณทั้งคู่จะคุยกันเรื่องเงินได้อย่างสบายใจมากขึ้น และโอกาสที่จะเจอเซอร์ไพรส์เรื่องเงินจะยิ่งน้อยลงด้วย

How to คุยเรื่องเงินกับคนรัก:

  • เริ่มจากเข้าใจก่อนว่า แต่ละคนมี ‘มุมมองเรื่องเงิน’ ต่างกัน
  • แลกเปลี่ยนความเห็นและวางแผนไปสู่เป้าหมายการเงินด้วยกัน
  • เปิดใจแชร์เรื่องการเงินของคุณอย่างตรงไปตรงมา
  • เน้นความสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือน ทุกไตรมาส จะช่วยให้การคุยเรื่องเงินเป็นเรื่องปกติมากขึ้น
  • รับฟังและ Empower ซึ่งกันและกัน เพื่อลดความกังวลในการคุยกันเรื่องเงิน

🔥 เงินเฟ้อในสหรัฐยังคงร้อนแรงรับวาเลนไทน์

ล่าสุด ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ปรับขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) ซึ่งยังเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ และเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกหลังจากที่ปรับตัวลงมา 2 เดือน โดยตัวเลขที่ปรับขึ้นนี้มาจากราคาพลังงานและค่าบริการที่สูงขึ้นเป็นหลัก ในขณะที่เมื่อเทียบกับ 1 ปีก่อนหน้า (YoY) ตัวเลข CPI ลดลงเล็กน้อยเหลือ 6.4% ซึ่งยังคงสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2%

ตัวเลขนี้บอกอะไรกับเรา?

หากมองในมุมบวก ตัวเลขเงินเฟ้อ MoM ยังเป็นไปตามคาด และตัวเลข YoY ยังเป็นการชะลอลงจากจุดสูงสุดเมื่อกลางปี 2022

ถึงแม้ 2-3 เดือนที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี แต่ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ล่าสุดชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้ออาจไม่ชะลอลงเร็วอย่างที่ตลาดคาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากราคาภาคบริการยังไม่ปรับลดลงมากพอ

โดยต้นทุนหลักในภาคบริการ คือ ค่าจ้างแรงงาน ซึ่งตลาดแรงงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง กลายเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ผลที่ตามมาคือ เราอาจเห็น Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้และคงไว้นานขึ้นอีก เพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาดแรงงานและคุมสถานการณ์เงินเฟ้อให้ได้ตามแผน

🎓 ศัพท์โลกการลงทุน: ETF vs กองทุนรวม

ETF (Exchange-traded Funds) และ กองทุนรวม เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนนิยมใช้เพื่อช่วยกระจายการลงทุนในตลาดต่างๆ

ETF กับ กองทุนรวม คืออะไร และต่างกันอย่างไร?

ทั้ง ETF และ กองทุนรวม จะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อย่างหุ้น หรือ ตราสารหนี้ ซึ่งอาจมีนโยบายที่เน้นตามประเทศหรือภูมิภาค เช่น สหรัฐ หรือเอเชีย หรือเน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจ เช่น Healthcare หรือ เทคโนโลยี ก็ได้เช่นกัน

จุดต่างคือ ETF ส่วนใหญ่เป็นกองทุนดัชนี คือ เน้นลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามดัชนีที่อ้างอิง เช่น ดัชนี S&P 500 หรือเรียกว่าการลงทุนแบบ Passive ต่างจาก กองทุนรวม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการบริหารการลงทุนแบบ Active ซึ่งจะเลือกหลักทรัพย์เป็นรายตัวโดยผู้จัดการกองทุนมากกว่า

StashAway เลือกลงทุนเฉพาะใน ETF เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายของคุณ

ทุกผลิตภัณฑ์การลงทุนของเรา ทั้ง General Investing, Goal-based Investing, Thematic Portfolio และ Flexible Portfolio เป็นการลงทุนใน ETF ทั้งหมด

StashAway เลือกลงทุนใน ETF เพราะ:

  • คุ้มค่ากว่า ในการสร้างพอร์ตเพื่อกระจายการลงทุนที่ดีและครอบคลุม ยกตัวอย่าง ETF ในพอร์ต General Investing มีค่าธรรมเนียมเฉลี่ยที่ 0.2% ต่อปี เทียบกับการลงทุนในกองทุนรวมในประเทศไทย ที่มีค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 1-3% ต่อปี
  • มีสภาพคล่องกว่า เมื่อเทียบกับกองทุนรวมเพราะซื้อ-ขายได้ แบบ Real-Time ในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่กองทุนรวมจะสามารถซื้อขายได้หลังตลาดปิดในแต่ละวันแล้วเท่านั้น

📌 สรุปจุดสังเกต ป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพหลอกลงทุน (Investment Scams)

202302 ENTH weeklybuzz 18 feb (2) Scam

วิธีสังเกตและป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพหลอกลงทุน รวมทั้งการตรวจสอบช่องทางที่ถูกต้องของ StashAway


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ