Weekly Buzz: จีนเตรียมผลิตชิปเอง หนีมาตรการกีดกันของสหรัฐ

26 September 2025

แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

เมื่อชีวิตเจอปัญหา ก็จงหาทางออกซะ! และนี่คือทางออกของจีนหลังถูกสหรัฐปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงมานานหลายปี

สร้างชิปเองภายในประเทศ

ปัจจุบัน ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีนอย่าง SMIC กำลังทดสอบเครื่อง Lithography (เครื่องจักรที่ใช้สร้างชิป AI) ที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ โดย SMIC จะต้องขยายการผลิตเครื่องจักรเหล่านี้ให้กลายเป็นสายการผลิตที่เชื่อถือได้ เพื่อทดแทนการปิดกั้นของสหรัฐ โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างระบบ Supply Chain ของ AI ที่พึ่งพาตนเองได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนยังสั่งห้ามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Alibaba และ ByteDance ซื้อชิปจาก Nvidia เพื่อให้พวกเขาหันมาซื้อชิปจากผู้ผลิตในประเทศแทน

จีนไม่ได้หยุดแค่ฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่ยังเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI อย่างจริงจัง โดยปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าของจีนเติบโตมากกว่า 10 เท่านับตั้งแต่ปี 2000 จนแตะระดับ 3,218 กิกะวัตต์ (GW) เมื่อปี 2024 หรือมากกว่าสหรัฐถึง 2.5 เท่า

ขณะที่ นักลงทุนมองเห็นศักยภาพในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีจีน ทำให้ดัชนี Hang Seng Tech พุ่งขึ้น 44% แล้วในปีนี้ (จุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 ปี) แม้ว่าในตอนนี้ วงการ AI ของจีนจะยังคงเน้นการใช้กลยุทธ์ ‘ลงทุนสร้างก่อน ค่อยทำกำไรทีหลัง’ โดยบริษัทจีนส่วนมากยังอยู่ในช่วงการลงทุนอย่างหนัก โดยทุ่มงบไปกับ R&D และโครงสร้างพื้นฐาน

ส่งผลอย่างไรต่อนักลงทุน?

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของตลาดหุ้นจีนโดยรวม ดังนั้นทิศทางของการพัฒนา AI จึงมีความสำคัญต่อแนวโน้มการลงทุนระยะยาวในจีน และสามารถส่งผลกระทบไปทั่วโลก เห็นได้จากการเปิดตัว DeepSeek เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างหนัก

AI กำลังกลายเป็น ‘การแข่งขันทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญที่สุดในยุคของเรา’ ซึ่งประเด็นสำคัญไม่ใช่แค่ ‘ใครมี GPU มากที่สุด?’ แต่คือ ‘ใครจะสามารถสร้างและรักษาระบบนิเวศ AI ได้อย่างครบวงจร?’ ไล่ตั้งแต่ชิปประมวลผล พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อน Data Centre ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่ผู้บริโภคใช้งานจริง

(รอติดตามการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมได้ใน CIO Insights ของเรา เดือน ต.ค. นี้)

 📰 ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ: Nvidia ทุ่มเงินลงทุนมหาศาล

Nvidia ประกาศที่จะลงทุน 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอุตสาหกรรม AI ของอังกฤษ ถือเป็นประกาศลงทุนระยะยาวครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท โดย Nvidia จะเข้ามาสนับสนุน Startup ที่มีศักยภาพสูงของอังกฤษในหลากหลายด้าน เช่น Fintech Data Centre การสร้างวิดีโอด้วย AI รวมถึงระบบขนส่งอัตโนมัติ

Nvidia แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพร้อมทุ่มเงินลงทุน เพราะการประกาศลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่บริษัทเพิ่งประกาศลงทุน 5,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในบริษัทคู่แข่งอย่าง Intel โดยทั้งสองบริษัทวางแผนทำงานร่วมกันในการสร้างชิปสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและ Data Centre ซึ่งจะช่วยให้ Nvidia มีบทบาทมากขึ้นในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และช่วยให้ Intel ทวงส่วนแบ่งที่เสียไปในตลาด Data Centre ได้

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ยังคงไม่ชะลอตัว โดย Gartner ประเมินว่าการใช้จ่ายด้าน AI ทั่วโลกจะพุ่งถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2025 และอาจเกิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ภายในปีหน้า ซึ่งการที่ Nvidia ประกาศลงทุนในอังกฤษ แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ กำลังวางแผนระยะยาวทั้งในเรื่องสถานที่ตั้ง ความสามารถในการผลิต และความร่วมมือระดับภูมิภาค ซึ่งสำหรับนักลงทุนแล้ว เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าเรื่องราวของ AI กำลังเข้าสู่ ช่วงการ ‘เติบโตอย่างมั่นคง’ มากขึ้น โดยเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่จับต้องได้ มากกว่าการสาธิตตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว

(คุณไม่จำเป็นต้องมีเส้นสายใน Silicon Valley เพื่อจะมีส่วนร่วมกับการเติบโตของ AI เพราะ Thematic Portfolio เปิดโอกาสให้คุณสามารถลงทุนในธีมใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้)

เนื้อหาในส่วนนี้เขียนขึ้นร่วมกับ Finimize


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ