Weekly Buzz: Fed ลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2025

19 September 2025

แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

Fed ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 4-4.25% ตามคาด (Trader ได้ Price In การลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. มาก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์)

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดยิ่งยืนยันแนวโน้มการลดดอกเบี้ย หลังอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐ (ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน) เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 3.1% YoY ตามคาด อีกทั้งยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเงินเฟ้อกลับมาพุ่งขึ้นเนื่องจากนโยบายภาษีนำเข้าอย่างที่นักลงทุนส่วนใหญ่กังวล ขณะที่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ขึ้นมาแตะระดับ 263,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สะท้อนถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงานสหรัฐ 

Fed ยังสื่อสารอย่างชัดเจนว่าพร้อมที่จะปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม หากตัวเลขเศรษฐกิจเอื้อให้ทำได้ ซึ่งหากเศรษฐกิจชะลอตัวลง Fed ก็อาจจำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มและเร็วขึ้น ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจเร่งตัว Fed ก็อาจต้องหยุดการลดดอกเบี้ยไว้ชั่วคราว ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ยมักเป็นประโยชน์กับสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เพราะต้นทุนการกู้ยืมที่ถูกลงจะกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยขณะนี้บรรดา Trader ประเมินว่า จะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้

 💡 Investor’s Corner: คุณต้องเตรียมเงินเกษียณไว้เท่าไหร่กันแน่?

โดยทั่วไป นักวางแผนการเงินมักบอกว่าคุณจะต้องมีรายได้หลังเกษียณประมาณ 70-80% ของรายได้ก่อนเกษียณ อย่างไรก็ตาม งานวิจัย Center for Retirement Research ของ Boston College พบว่าคนวัยเกษียณจริงๆ แล้วใช้จ่ายลดลงเพียง 3-7.5% หลังเกษียณไปแล้วสิบปี ดังนั้น หากคุณไม่ได้วางแผนจะเปลี่ยน Lifestyle ครั้งใหญ่ การตั้งเป้ารายได้หลังเกษียณให้ใกล้เคียงกับรายได้ในปัจจุบันน่าจะปลอดภัยกว่า

ผลตอบแทนจะเป็นผู้กำหนด ‘ชีวิตหลังเกษียณ’ ของคุณ

หุ้นสหรัฐให้ผลตอบแทนจริง (ปรับด้วยเงินเฟ้อ) เฉลี่ย 7% ต่อปี ตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ข้อเท็จจริงนี้ทำให้นักลงทุนจำนวนมากทุ่มเงินลงทุนในหุ้นสหรัฐเต็มที่ โดยข้อมูลจาก Vanguard ระบุว่า แรงงานอเมริกันวัย 30 ปลายๆ วางเงินออมเพื่อการเกษียณอยู่ในหุ้นสหรัฐมากถึง 88% เพิ่มขึ้นจาก 82% เมื่อ 10 ปีก่อน

ทั้งนี้ กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นอัตราการออมเพื่อคงรายได้ในวัยเกษียณให้เท่ากับรายได้ในปัจจุบัน โดยสมมติว่าคุณทำงานเป็นเวลา 30 ปี และใช้ชีวิตหลังเกษียณไปอีก 30 ปี ดังนั้น ถ้าตลาดให้ผลตอบแทนจริงมากกว่า 5% ต่อปี การเก็บออมแค่ 10% ของรายได้ก็อาจเพียงพอ แต่ถ้าผลตอบแทนจริงเหลือเพียง 3% คุณจะต้องเก็บเงินออมอย่างน้อย 20% ของรายได้

ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่ามีอยู่ 2 ขั้นตอน คือ 1) ออมให้มากขึ้น ซึ่งตรงไปตรงมา และ 2) ลงทุนในพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพราะหากคุณเอาเงินลงทุนส่วนใหญ่ไปผูกไว้กับหุ้นสหรัฐ เท่ากับคุณกำลังเดิมพันว่าหุ้นสหรัฐจะยังคงเป็นผู้ชนะไปตลอดกาล ดังนั้น ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า คือ ยอมรับผลตอบแทนคาดหวังที่อาจต่ำกว่าเล็กน้อย แลกกับการที่พอร์ตของคุณจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าในทุกสถานการณ์ เพราะมีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ กลุ่มธุรกิจ และภูมิภาค

ส่งผลอย่างไรต่อนักลงทุน?

หากคุณตั้งสมมติฐานว่าจะได้ผลตอบแทนจริง 3% คุณก็ควรตั้งเป้าออมอย่างน้อย 20% ของรายได้ ซึ่งมากกว่าคำแนะนำแบบเดิมๆ ถึง 2 เท่า อย่างไรก็ตาม การเผื่อเหลือเผื่อขาดแบบนี้คือการวางรากฐานเพื่ออนาคตที่มั่นคงกว่า เพราะหากตลาดทำผลตอบแทนได้ดีกว่าคาด คุณก็จะมีเงินก้อนใหญ่ขึ้น และมีโอกาสสูงกว่าที่จะใช้ชีวิตวัยเกษียณได้ตามฝัน

(หากคุณกำลังมองหาพอร์ตที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ ลองดูพอร์ต General Investing ของเรา)

เนื้อหาในส่วนนี้เขียนขึ้นร่วมกับ Finimize


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ