Weekly Buzz: ‘สหรัฐ-จีน’ สงบศึกเป็นเวลา 90 วัน 🕊️

16 May 2025

แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

ผู้แทนการค้าของสหรัฐและจีนพบกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และบรรลุข้อตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าลงอย่างมีนัยสำคัญเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ภาคธุรกิจ ผู้บริโภค และนักลงทุนต่างโล่งอกกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างทั้งสองประเทศ

เกิดอะไรขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์?

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ โดยสหรัฐยอมที่จะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากระดับสูงลิ่วที่ 145% เหลือ 30% ขณะที่จีนก็จะลดภาษีสินค้าสหรัฐจาก 125% เหลือ 10% อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าบางรายการที่ยังไม่ได้รับการลดภาษี เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงภาษีบางส่วนที่เกิดขึ้นในช่วงสมัยแรกของประธานาธิบดี Donald Trump

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังให้คำมั่นว่าจะกลับมาเปิดโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ และจัดตั้งระบบเพื่อบริหารจัดการข้อพิพาททางการค้าอีกด้วย ซึ่งถือเป็นผลงานที่ไม่เลวเลยสำหรับการเจรจาบนเทือกเขาแอลป์ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นี่คือข้อตกลงภาษีครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ หลังอังกฤษได้ประเดิมไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน โดยสหรัฐได้ยกเว้นภาษีให้กับสินค้าบางประเภทของอังกฤษ แต่สินค้าส่งออกส่วนใหญ่จากอังกฤษยังคงต้องเสียภาษีที่อัตรา 10% อยู่ดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นสัญญาณถึงประเทศคู่ค้าอื่นๆ ว่าการเจรจาอาจนำมาซึ่ง ‘ส่วนลด’ ได้ แม้จะมีการเก็บภาษีสินค้าบางประเภทอยู่ก็ตาม

Key Takeaway

ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงจากอัตราภาษีนำเข้าที่ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน กว่าจะส่งผลอย่างชัดเจนต่อข้อมูลการขนส่งสินค้า รายงานผลประกอบการบริษัท หรือแม้แต่ดัชนีเงินเฟ้อ ที่สำคัญคือ การสงบศึก 90 วันอาจไม่ยืนยาวพอที่จะได้ข้อสรุปแบบถาวร นั่นหมายความว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอาจมีความปั่นป่วนระลอกใหม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวก ทำให้นักลงทุนตอบรับข่าวนี้ด้วยการดันดัชนี S&P 500 ขึ้นไป 3% และยังมีความหวังว่าข้อตกลงนี้จะช่วยลดความตึงเครียดลงได้ในระยะยาว โดยตามที่บทความ CIO Insights ของเราได้วิเคราะห์ไว้ว่า เราอาจจะต้องเผชิญกับกระบวนการเจรจาที่ยืดเยื้อและยาวนาน  ดังนั้น แทนที่จะรอดูอยู่เฉยๆ การเตรียมพอร์ตของคุณให้พร้อมกับการลงทุนระยะยาว ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า (หากคุณมองหาพอร์ตที่ปรับระดับความเสี่ยงได้ตามใจคุณ พอร์ต General Investing ของเราอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม 😎)

📰 ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ: จีนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเริ่มเจรจาการค้า

ไม่กี่วันก่อนที่ตัวแทนของจีนจะเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อหารือเรื่องภาษีนำเข้า รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยแรงจูงใจทางการเงินเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบ้านและรถยนต์ เพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชน พร้อมกับผ่อนคลายการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก อีกทั้งยังลดอัตราส่วนเงินสำรองของธนาคาร (RRR) (อ่านเพิ่มเติมได้ใน Simply Finance) ลง 0.5% ซึ่งจะช่วยปลดล็อกสภาพคล่องในระบบได้กว่า 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 138,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ จีนยังอัดฉีดเงินอีก 1.1 ล้านล้านหยวน (ราว 152,000 ล้านดอลลาร์ฯ) ผ่านโครงการปล่อยกู้พิเศษ เพื่อสนับสนุนหลายภาคส่วน นับตั้งแต่ Tech Startup ไปจนถึงสถานดูแลผู้สูงอายุ

เนื่องจากยังไม่มีการรับประกันว่าข้อตกลงลดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วันจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาททางการค้าอย่างถาวร จึงมีความเป็นไปได้สูงว่ารัฐบาลจีนจะยังเตรียมเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ไว้ใช้อีกในอนาคต ทั้งในรูปแบบของการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม หรือการใช้จ่ายโดยตรงจากภาครัฐ ซึ่งหากคุณสนใจโอกาสเติบโตไปพร้อมเศรษฐกิจจีน พอร์ต Flexible Portfolio ของเรา ออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถเลือกลงทุนในภูมิภาคที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย

เนื้อหาในส่วนนี้เขียนขึ้นร่วมกับ Finimize

🎓 Simply Finance: อัตราส่วนเงินสำรองของธนาคาร (RRR)

อัตราส่วนเงินสำรองของธนาคาร (RRR) คือ สัดส่วนของเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ต้องกันไว้เป็นเงินสำรอง และไม่สามารถนำไปปล่อยกู้ได้ เมื่อธนาคารกลางปรับลดอัตราส่วนนี้ลง ธนาคารพาณิชย์จะสามารถนำเงินฝากไปปล่อยกู้ได้มากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ขยายตัวตามไปด้วย


แชร์บทความนี้

  • linkedin
  • facebook
  • twitter
  • email

อยากอ่านเพิ่ม?

เราหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ จากบทความของเรา

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนอีกหลายแสนคนที่ต้องการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วยการสมัครรับบทความและบทวิเคราะห์ของเราที่จะส่งตรงถึงอีเมลของคุณ